วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

CHAPTER 6


Chapter 6
              ร่างบางเดินโซเซอย่างคนหมดแรงเดินเอื่อยๆอยู่ตรงทางเดิน จำใจโดดคาบเรียนตอนบ่าย ในตอนนี้เขาไม่มีแรงทีจะมาเรียนหรอก ลำพังแรงจะเดินไปห้องเรียนยังแทบจะไม่มีด้วยซ้ำ
                        หลังจากที่เขาร้องไห้จบตาบวม รู้สึกตัวอีกที อีกร่างนึงที่เคยอยู่ตรงหน้าก็หายไปเสียแล้ว เหลือไว้เพียงแค่ผ้าเช็ดหน้านึ่งผืนที่วางอยู่บนเข่าตัวเองเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  โทรบอกโยซอบเรียบร้อย ว่าให้เอากระเป๋ามาให้ด้วย ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เหนื่อย ล้า ไม่มีแรง  ไม่อยากเจอ  ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะทำตัวยังไง ความอึดอัดในใจที่เก็บเอาไว้ก็ระบายออกมาซะจนหมด ต่อจากนี้ พวกเขาคงจะเป็นได้แค่คนที่เคยรู้จักกัน เสียใจ ที่ถูกเสียสี เสียใจที่ถูกต่อว่า เสียใจที่ถูกเข้าใจผิด  แต่ก็ดีใจ ดีใจคนคนนี้กลับมา ดีใจที่ได้เจอกันอีก ดีใจที่ได้อยู่ใกล้ๆกันอีกครั้ง ถึงแม้ว่าสถานตอนนี้ จะต่างจากเมื่อก่อนมากก็ตาม ต่างกันมากจริงๆ
        
        “ ฮยอนซึงอา มาละ ว่าแต่นายเป็นอะไรอะ ทำไมถึงไม่เข้าเรียน ทุกคนเป็นห่วงมากเลยน้า จุนฮยองอาก็ด้วย หายไปกันทั้งคู่เลย” เสียงเล็กๆของโยซอบที่เพิ่งจะมาถึง พร้อมกันประเป๋าของฮยอนซึง เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง ถึงแม้เขาจะแก้ตัวไปให้ทั้งสองคนแล้วก็เหอะ ส่วนดูจุน โยซอบขอมาหาฮยอนซึงคนเดียว รายนั้นเลยยอมกลับบ้านไปแต่โดยดี
        “ ฮยอนซึงอ่า! ทำไมตาแดงบวมอย่างนี้หละ เป็นอะไร บอกฉันได้น้า จุนฮยอง จุนฮยองทำอะไรนายงั้นเหรอ -0- ”  คนตัวเล็กที่พอเห็นหน้าของเพื่อนรักแล้ว ก็อดที่จะตกใจไม่ได้ ดูก็รู้ว่าร้องไห้มา หนักด้วย
        “ เปล่า จุนฮยองไม่ได้ทำอะไรหรอกโย ” เสียงแหบๆ ตอบกลับมาเพียงเบาๆ
        “ แล้วฮยอนซึงอาร้องไห้ทำไม ” 
        “ ฉันผิดเองหละโย ผิดที่ทิ้งเขามา ไม่ยอมบอกลาซักคำ ไม่ยอมแม้แต่จะโทรไปหา ฉันมันไม่กล้า ไม่โทรไปจะดีกว่า คงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว เขาควรจะลืมฉัน แต่ฉันกลับทำให้เขาเจ็บปวด มันก็สมควรแล้วหละโย...  ฮึก! ”   ร่างบางถึงกับสะอื้นขึ้นมาอีก ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ มันเป็นความผิดของเขาเองทั้งหมด
        “ ฮะ... ฮยอนซึงอา ”
        “ ถ้าเขาจะว่าไรฉัน มันก็ไม่ผิดนี่ ว่ามั้ยโย แต่ฉันเจ็บมากเลย นายรู้มั้ย ฉันคิดว่าฉันทนได้ แต่มันไม่ง่ายเลย ฮึก!... ” ฮยอนซึงได้แต่ระบายความรู้สึกออกมาให้อีกคนช่วยรับรู้ ไม่อยากจะเก็บไว้คนเดียวอีกแล้ว
       “ ฮยอนซึงอา จุนฮยอง ไปพูดอะไรกับนายเหรอ  ”
        “ .... ” ร่างบางไมยอมตอบ เพียงแค่สายหน้าเบาๆ แล้วก็ร้องไห้ออกมาอีก
        “ ไม่เป็นไรน้า ฮยอนซึงอา ไม่ใช่ความผิดนายหรอก อย่าร้องเลย  ” คนตัวเล็กทำได้แค่ยืนปลอบเพื่อนตัวเองไม่ให้ร้องไห้ไปมากกว่านี้ เดาได้ไม่ยากว่าจุนฮยองต้องไปพูดอะไรซักอย่างกับฮยอนซึงแน่ๆ เพียงแต่เจ้าตัวไม่ยอมบอกเท่านั้นเอง
            จุนฮยองอา นายทำมากเกินไปแล้วนะ ฮยอนซึงร้องไห้ใหญ่แล้วนายรู้ไหม ไหนบอกว่าจะไม่ทำให้ ฮยอนซึงร้องไห้ไง ฉันต้องไปคุยกับนายให้รู้เรื่องให้ได้ !



                        ............................................................................................................



                        หลังจากส่งฮยอนซึงกลับถึงบ้านอย่างปลอบภัยแล้ว ร่างเล็กก็รีบพาตัวเองไปหาอีกคนทันที เขาไม่ชอบที่จะมีอะไรค้างคาให้มันนานจนเกินไป โดยเฉพาะกับเพื่อนรักของเขาแล้ว ยิ่งรอช้าไม่ได้
                        ใช้เวลาไม่นานโยซอบก็มายีนอยู่หน้าบ้านของคนก่อเหตุ โยซอบรู้ได้ยังไงหนะเหรอ ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของโยซอบหรอก ถ้าเขาต้องการจะรู้อะไรในโรงเรียน แค่ที่อยู่ของคนในห้อง กรี๊งเดียวก็พอ
               จุนฮยองอา วันนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่องให้ได้เลย ฮึม!
          “ ตี๊ด...............ตี๊ด.........ตี๊ดๆๆๆๆๆๆ...” ( คิดว่าเป็นเสียงออดบ้านแบบใหม่เถอะนะ T^T) โยซอบรัวกดออกไม่ยั้ง ด้วยความโมโห จะบอกว่าไม่ได้ยินคงไม่ได้
            “ มาแล้วๆๆ ” เสียงคนก่อเหตุดังสถบออกมา ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น “ มาแล้วโว๊ย ใครว๊ะ! 0.0  ”
            “ ฉันเอง เข้าไปได้ใช่มั้ย ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่คนตัวเล็กก็เดินดุ่มๆเข้าไปในตัวบ้านแล้ว ปล่อยให้เจ้าของบ้านยืนอึ่งอยู่หน้าบ้านต่อไป
            “ โยซอบ นาย...รู้จักบ้านฉันได้ไง และมาทำไม - -* ” พอได้สติ จุนฮยองก็เดินตามเข้ามาเห็นคนตัวเล็กนั่งที่โซฟาเรียบร้อยแล้ว
            “ นายไม่ต้องรู้หรอกจุนฮยองอา เค้ามาเพราะมีเรื่องที่นายควรจะรู้เอาไว้ ” คนตัวเล็กไม่รอช้า เข้าเรื่องทันที
            “ เรื่องอะไรของนาย ”
            “ ฮยอนซึงอาร้องไห้ ” คนตัวเล็กเหลือบมองปฏิกิริยาของอีกคน พอเห็นจุนฮยองมีสีหน้าไม่ดี ก็เริ่มพูดต่อ “ นายเป็นคนทำใช่มั้ย เค้ารู้นะ ” หยุดไว้แค่นั้น อีกคนยังไม่ตอบอะไร นอกจากสีหน้าที่เดาอารมณ์ไม่ได้
            “ จุนฮยองอา นายพูดอะไรกับฮยอนซึงอาบ้าง ฮยอนซึงอาไม่ยอมบอกเค้า  ”
            “ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย โยซอบ ” จุนฮยองที่เริ่มจะทนฟังไม่ไหว พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
            “ ฮยอนซึงเป็นเพื่อนเค้า เค้าไม่ยอมให้จุนฮยองอามาว่าเพื่อนเค้าหรอก ” คนตัวเล็กก็เริ่มจะโมโหกับท่าทางที่เดายากของอีกคน
            “ นายรู้อะไรโยซอบ  ” น้ำเสียงที่เบาลง แต่ก็ยังคงเฉยชาเหมือนเดิมจนคนตัวเล็กทนไม่ไหว  
“ นายนั่นแหละไม่รู้อะไร! ” โยซอบขึ้นเสียงกลับอย่างโมโห จนจุนฮยองเองยังตกใจ เค้าไม่เคยเห็นคนตัวเล็กโกรธมากขนาดเรียกเขาว่านาย “ นายโกรธที่ฮยอนซึงอา เค้าไปแล้วไม่ได้บอกใช่มั้ย นายรู้มั้ยฮยองซึงอาเสียใจแค่ไหน ร้องไห้หนักแค่ไหนตอนที่รู้ว่าต้องย้ายบ้านกระทันหันนะ นายยังไปว่าฮยอนซึงอาอีก ไหนนายบอกจะไม่ทำให้ฮยอนซึงอาร้องไห้ไง จำได้รึเปล่า ” คนตัวเล็กหอบหน่อยๆ หลังจากรัวความในใจออกมาเหมือนกัน
“ แล้วนายไม่คิดว่าฉันเสียใจเหรอไง! 3ปีที่หายไป นายคิดว่าฉันไม่รู้สึกอะไรเหรอไงฮะ! ” อีกคนที่คุมอารมณ์ไม่อยู่ ก็ตอกกลับมา เขาเองก็เสียใจเหมือนกัน
“ ถ้านายเสียใจ นายก็น่าจะรู้ว่าฮยอนซึงอาก็เสียใจ แล้วนายทำแบบนั้นกับฮยอนซึงอาได้ยังไง ” คนตัวเล็กพูดด้วยเสียงที่ปกติขึ้น แต่มันดูเศร้าๆ
“ ฉัน... ” ไม่มีคำตอบ ต่างคนต่างตกอยู่ในความเงียบ โยซอบพูดถูก ถ้าเขาเสียใจ เขาก็น่าจะรู้ว่า ฮยอนซึงเองก็เสียใจไม่แพ้กัน แต่ระยะเวลา 3 ปี ที่ขาดการติดต่อ  ไม่ส่งข่าว  เขาควานหาคนสวยทุกทีในเกาหลี  ใช่ว่าไม่อยากเจอ แต่พอเจอแล้ว มันก็อดไม่ได้ ที่จะทำลงไปแบบนั้น
“ นายรู้ไว้นะ ฮยอนซึงอา เค้ายังรักนายเหมือนเดิม เค้าปกป้องนายจนถึงตอนนี้ ไม่ยอมบอกฉันว่าเกิดอะไร ฉันบอกว่านายทำใช่มั้ย นายรู้มั้ยฮยอนซึงอาตอบว่าอะไร....  ” คนตัวเล็กพักระยะซักครู่ก่อนจะพูดต่อ
“ จุนฮยองไม่ผิดหรอก คนที่ผิดคือฉันเอง... ”  ไม่มีใครพูดอะไรต่อจากนี้ นอกจากน้ำใสๆที่ไหลลงมาจากดวงตาของคนฟังอย่างไม่มีสาเหตุ หลังจากโยซอบพูดประโยคสุดท้ายออกมา เขารู้สึกเพียงว่า เขามันโง่จริงๆ โง่ที่ทำร้ายคนที่ตัวเองรัก
“ จุนฮยองอา...จุนฮยองอายังรักฮยอนซึงอาอยู่ใช่มั้ย ฮยอนซึงอายังรักจุนฮยองอานะ  ” คนฟังไม่ยังตอบอะไร นอกจากเช็ดน้ำตาลูกผู้ชายของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดเพียงเบาๆ “ ฉันควรทำไง ”
            ได้ฟังเพียงเท่านั้น คนตัวเล็กก็ถึงกับยิ้มร่า ได้เวลาสนุกแล้วซิ “ ยากหนอยนะจุนฮยองอา ”
   คราวนนี้แหละจุนฮยองอา ฮยอนซึงอา ใจแข็งปากแข็งกันดีนัก จะเอาให้เข็ดเลยคราวนี้ อิอิอิ


         ...........................................................................................................

แค่นี้ก่อนน้า เดี๋ยวจะรีบอัพเพิ่มให้จ้า วันนี้สอบเส็ดแล้ว>< มีเวลาว่างแล้ว มั้ง 5555 ไรเตอร์มีกิจกรรมปิดเทอมเยอะมากเลย T^T ใครยังไม่สอบสู้ๆนะจ้า~~~ ^0< !!

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

CHAPTER 5

Chapter 5
   หน้าห้องพักครู
            ฮยอนซึงที่เดินทอดน่องหลังจากที่รีบวิ่งมาซักพักด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจะดีซักเท่าไหร่ มุ่งหน้าไปยังห้องพักครู ที่ถูกอาจารย์โจควอนคาดโทษ นัดให้ไปหาเมื่อเช้า โทษฐานที่เขาเข้าห้องเรียนสาย
   ทำไมวันนี้มันแย่อย่างนี้ว่ะ ตื่นสาย มาโรงเรียนสาย เจอกับอาจารย์โจควอน แล้วไหนจะยงจุนฮยองอีก แล้วนี่ผมจะต้องเจออะไรบ้างเนี่ย อาจารย์โจควอนต้องบ่นถึงกฎของโจควอน100ข้อไรนั่นแน่ๆ    
ร่างบางพยายามมองหาใครอีกคนที่ถูกเรียกตัวมาด้วยเมื่อตอนเช้า แต่ถึงอย่างนั้นมันอาจจะดีกว่าก็ได้ที่อีกคนจะไม่มา จุนฮยองไม่ค่อนสนใจอะไรพวกนี้อยู่แล้ว เขาน่าจะเข้าไปก่อน
                  “ไม่รอ” เสียงเรียกที่ฮยอนซึงไม่อยากได้ยิน
                  “ไม่จำเป็นต้องรอ” ถึงจะไม่อยากพูดอะไรแต่มันก็อดไม่ได้ เขาน่าจะหัดเย็นชาใส่จุนฮยองบ้าง พอเปิดประตูเข้าไป ก็เจอครูโจควอนกำลังนั่งรออยู่พร้อมกันกระดานอะไรซักอย่างซึ่งมันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ในความรู้สึกของฮยอนซึงหนะนะ - -
“ เหมือนที่นายไม่เคยรอฉัน และทิ้งฉันไปใช่ไหม ” อึก! มันเหมือนมีอะไรมาจุกที่หน้าอก ถึงจะไม่แน่นมาก แต่ก็ทำให้ร่างบางถึงกับหายใจไม่ออก ยังไม่ทันที่เท้าจะก้าวเข้าไปจุนฮยองก็พูดขึ้นมา              
   ทำไมนายถึงชอบพูดถึงเรื่องนี้ เรื่องที่มันทำให้ฉันเจ็บปวดด้วยนะจุนฮยอง
                  “ ฉันพูดถูกใช่ไหมหละ ” ทิ้งไว้แค่นั้นน้ำเสียงที่ค่อยๆก็เย็นชา   ที่ยิ่งทำให้ร่างบางหายใจไม่ออกมากกว่าเดิม แล้วก็เดินนำเข้าไปที่โต๊ะครูโจควอน ฮยอนซึงได้แต่เถียงในใจ พูดอะไรไม่ออกไม่ใช่
    นายพูดผิดจุนฮยอง นายพูดผิดทุกอย่าง....
                  “อ่า มากันครบแล้วทั้งสองคน งั้นครูขอเริ่มเลยนะ ^^” ครูโจควอนพูดด้วยท่าทางที่ดูจะมีความสุขที่สุดในที่นั่งอยู่ ถึงหน้าครูเขาจะดูซีเรียสหน่อยๆก็เหอะ - -  
      “เอาหละ พวกเธอไม่ควรมาสายเพราะเราตกลงกันไว้แล้วว่าข้อหนึ่งเราจะ...................”  เริ่มอาจารย์โจควอนเริ่มพูดไปเรื่อยๆ
ร่างบางไม่รู้ว่าอีกคนจะได้ฟังบ้างไหม แต่เขาในตอนนี้เริ่มที่จะไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ถึงมันจะผ่านมาแล้วแต่คำพูดเมื่อกี้ของจุนฮยองมันดังก้องวงไปวงมาอยู่ในหัวของร่างบาง และดูเหมือนมันจะยิ่งดังชัดขึ้นเรื่อยๆ   เหมือนที่นายไม่เคยรอฉัน และทิ้งฉันไป ใช่ไหม ’   ‘ ฉันพูดถูกใช่ไหมละ   น้ำเสียงที่แสนเย็นชาที่ ฮยอนซึงจำได้ดี และเริ่มจะคุ้นเคยกับมันมากเรื่อยๆ ตั้งแต่เขาเจอกับจุนฮอง ดวงตาของเขาที่เริ่มจะชินกับการร้องไห้ แทบทุกครั้งที่ได้ยินเสียงของคนข้างๆ เสียงที่ตัวเขาเองไม่อยากได้ยิน เสียงของยงจุนฮยอง......


อาจารย์ยังคงบ่นต่อไปเรื่อย น้ำตาของฮยอนซึงที่กลั้นเอาไว้ในตอนแรก ตอนนี้มันแทบจะไม่มีให้เห็น หลังจากตั้งสติได้บ้าง เขาก็เริ่มรับรู้สิ่งรอบข้างว่าอาจารย์ยังไม่หยุดพูด และดูเหมือนจะยังพูดไปเรื่อยๆด้วยซ้ำ
    อาจารย์จะร่ายอะไรนักหนาครับ ผมกำลังดราม่าอยู่นะ T0T~
                  “ แล้วที่เธอสองคนมาสายพร้อมกันนี่คงไม่ได้รอกันหรอกนะ -0- ” จู่ๆอาจารย์เริ่มจะถามหลังจากพูดคนเดียวมานาน
                  “ เปล่าหรอกครับอาจารย์ จางฮยอนซึง เค้าไม่เคยรอผมหรอกครับ ” อึก! คนตัวเล็กพอได้ยินคำตอบ ความรู้สึกที่เหมือนถูกอะไรซักอย่างที่คมๆ ทิ่มเข้ามาอย่างจัง ถึงมันจะดูไม่ลึกมาก แต่ก็เจ็บ....
                  “ อ้าวเหรอ แล้วที่พวกนายเข้ามาพร้อมกัน จางฮยอนซึงเขาไม่รอนายเหรอไง ยงจุนฮยอง - - ” อาจารย์ยังคงถามอีกด้วยความสงสัย แต่มันทำให้ร่างบาง เจ็บลึกลงไปทุกที
                  “ เขาไม่ได้รอผมหรอก เขาไม่เคยรอผม เขาทิ้งผมด้วยซ้ำ ” เสียงแบบนี้อีกแล้ว ดวงตาของร่างบางเริ่มร้อนผ่าว อาจเป็นเพราะน้ำตาที่เขาไม่สามารถกลั้นมันได้เหมือนทุกครั้ง  
                  “ เหมือนที่ผ่านมา ใช่ไหม จางฮยอนซึง ”  จุนฮยองยังคงพูดย้ำ ไม่ใช่ ร่างบางได้แค่เถียงในใจ เขาไม่อยากจะพูดอะไร ให้มันมากความ  ทำไมต้องเน้นที่ชื่อของเขาด้วย
                 “ ถ้าอาจารย์ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ ”
                  “ อะ..อืมๆ ไปเถอะจะเข้าเรียนแล้ว -0- ”  พูดจบฮยอนซึงก็ลุกขึ้น โค้งให้อาจารย์หนึ่งทีพอเป็นมารยาทก่อนจะรีบเดินออกจากห้องพักครูไป  อีกคนก็ไม่รอช้า ลุกตามร่างบางไปแทบจะทันที
..........................................................................................................................


            โยซอบที่ตอนนี้กินข้าวกลางวันกับดูจุนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันแน่อยู่แล้วว่าสุภาพบุรุษอย่างดูจุน ก็ต้องออกเงินเลี้ยงโยซอบผู้น่ารักอยู่แล้ว จนตอนนี้มันเริ้มจะกลายเป็นกิจวัตรของเขาไปแล้วแหละ
                  “ ดูจุนอา ทำไมฮยอนซึงกับจุนฮยองไปหาครูโจควอนนานจังอ่า~ นี่มันนานแล้วน้า -3-”  โยซอบที่นั่งอี๋อ๋อกับดูจุนอยู่นาน เริ่มสังเกตุได้ว่าฮยอนซึงกับจุนฮยองหายไปนานแล้วเหมือนกัน ก่อนจะถามขึ้นด้วยท่าทางที่น่ารักตามเคย แก้มป่องๆ มันช่วยเรียกความสนใจจากคนตรงหน้าได้ดีเลยหละ( เพิ่งจะรู้สึกรึไงย่ะ - - : Error_Kiss)
                  “ อ่า... โยซอบ นี่นายไม่รู้เหรอว่าถ้าถูกอาจารย์โจควอนเรียกไปแล้วละก็ นานครับ กว่าจะได้กลับออกมา  ”  ดูจุนที่ดูจะเคลิบเคลิ้มอยู่นานก็เริ่มรู้สึกตัว ก็ทำท่าเหมือนจะกระซิบบอกคนตัวเล็ก ที่ใกล้ๆใบหู ทั้งที่จริงๆแล้ว ไม่ต้องก็ได้ - -
                  “ อ่ะ....อ๋อเหรอดูจุนอา แต่เค้าว่า ดูจุนอา เอาหน้าออกไปก่อนก็ได้น้า ไม่ต้องกระซิบใกล้ขนาดนี้ก็ได้ แฮ่ๆ ^///^ ” คนตัวเล็กพอรับรู้ถึงลมที่ข้างใบหู ก็ถึงกับหน้าแดง ทำอะไรไม่ถูกเลยที่เดียว ทั้งเขิน ทั้งอาย
                  “ อ๋อ โทษทีนะ พอดีอินไปหน่อย ”  ถึงมันจะดูเป็นการแก้ตัวที่ขุ่นๆ แต่เชื่อเหอะ คนอย่างยังโยซอบเชื่อสนิทใจอยู่แล้วแหละ
                   “ อ๋อเหรอ ไม่เป็นไรๆ ^^ ” โยซอบยิ้มให้อย่างน่ารักก่อนจะถามต่อ “ แล้วดูจุนอารู้ได้ยังไงอ่าว่ามันจะนาน หือ  O.O  ” ทำตาโตวิ๊งๆ ถึงจะรู้ว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าคนตรงหน้าก็อดจะยิ้มกับมันไม่ได้อยู่ดี
                  “ ก็ฉันเคยโดนหนะซิ เข้าห้องสายแค่หนึ่งนาทีเองนะ ถ้าเสียงออดไม่ดังนะ คงไม่ได้ออกมาหรอก หูอื้อไปหลายวันเลย ฮ่าฮ่าฮ่า ”  คนตัวเล็กมองภาพตรงหน้าอย่างยิ้มๆ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคนที่เขาแอบชอบมาเป็นปีๆจะมาหัวเราะ พูดคุยอยู่ข้างๆเขาอย่างนี้  
                  “ เป็นอะไรโยซอบ เห็นอมยิ้มอยู่คนเดียว นี่นายคิดอะไรอยู่เนี่ย ดูมีความสุขจังเลยนะ ^^ ” พูดจบก็ยื่นมือมาดึงแก้มยุ้ยๆของเจ้าตัวเล็กตรงหน้าอย่างหมันเขี้ยวซะเลย
                  “ โอ๊ะ โอ๊ย ดูจุนอา เค้าเจ็บน้า ปล่อยเลย -3- ” โยซอบบุ้ยปากอย่างน่ารัก คนแกล้งยิ่งไม่อยากปล่อยมือเข้าไปใหญ่  ติดแต่ว่าโยซอบบ่นว่าเจ็บหรอกนะ
                   “ อ่าขอโทษนะครับ ชู่ว์ หายเจ็บนะ ^3^  ”  คนตัวใหญ่ก็เผลอตัว ยื่นหน้าเข้าไปเป่าแก้มของ    โยซอบเบาๆ คราวนี้เขาไม่ได้ตั้งใจ  มันแค่ชินกับการเป่าให้หายเจ็บเหมือนเด็กๆ และมัยก็ยิ่งทำให้โยซอบ หน้าแดงสติหลุดไปยิ่งกว่าเดิมซะอีก
                  “ อ่า.... ดูจุนอา เค้าหายเจ็บแล้ว เดี๋ยวเค้าไปห้องน้ำก่อนนะ >/////< ”  โยซอบรีบลุกขึ้นก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำ ไม่รู้ว่าหน้าตัวเอง แดงไปถึงไหนแล้ว
               ทำไมฉันต้องไปทำอย่างนั้นด้วยว่ะเนี่ย ไอ้ดูจุนเอ๊ย นี่แก เฮ้อ~....... โยซอบเป็นผู้ชายนะเว้ย
            มือเล็กๆรีบวักน้ำล้างหน้าอย่างลวกๆ เผื่อว่ามันจะช่วยลดสีแดงๆบนใบหน้าของตัวเองได้บ้าง ล้างไปก็อมยิ้มไป ถึงจะเขินอาย แต่ก็หุบยิ้มไม่ได้ซักที
               ดูจุนอ่า อย่าเผลอบ่อยซิ เค้ายิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้อยู่น้า~ อย่าทำให้เค้าหวั่นไหวไปมากกว่านี้จิ ถึงมันจะดีใจก็เหอะ  แต่ว่าถ้าดูจุนอาไม่คิดอะไรกับเค้า เค้าคงจะเสียใจมากแน่ๆเลย....


................................................................................................................

            ทางด้านของดงอุน ที่นั่งกินข้าวกับกีกวังสองคน ก็กินไป มองกีกวังกินข้าวกันไป ทั้งคู่พูดคุยเล่นกันจนกินเสร็จ   กีกวังก็ชวนดงอุนไปเดินเล่นที่สวนของโรงเรียน เพื่อเป็นการย่อย อาจจะดูเหมือนดงอุนสบายใจแต่เขาก็ยังคิดอยู่ดีว่า เพราะอะไร เขาถึงสบายใจทุกครั้งที่คุยกับกีกวัง
                  “ ดงอุน ฉันสงสัยว่าทำไมนายถึงถูกทิ้งอะ  ”  กีกวังเป็นฝ่ายเปิดการสนทนา หลังจากเริ่มจะเดินกันเงียบๆ
                  “ อ๋อ ก็แค่เพื่อนชั้นคนนึงถูกอาจารย์โจควอนเรียกไป ส่วนอีกคนไปอี๋อ๋อกับเพื่อนใหม่หนะ ฉันเลยโดนทิ้งเลย ฮ่าๆๆๆ  ”  คนข้างๆ ถึงจะฟังอยู่แต่เขาก็อดที่จะมองรอยยิ้มของอีกคนไม่ได้อยู่ดี ทำเอาตังเองก็อดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้
                  “ อี๋อ๋อกับเพื่อนใหม่เหรอ อิอิ พูดซะ คิคิ  ”  คนตัวเล็กไมพูดอะไรนอกจากขำคิกคักอยู่คนเดียว มันเป็นรอยยิ้มที่ดูสดใส และอบอุ่นมากสำหรับดงอุน
                  “ ว่าแต่นายเหอะ โดนทิ้งเหมือนกันนี่  ”  ว่าแล้วก็เอาแขนสะกิดคนข้างๆหนึ่งที ถึงมันจะเป็นแค่การสะกิดแขนก็เถอะ แต่คนตัวเล็กก็แอบหน้าขึ้นสีหน่อยๆเหมือนกัน “ เป็นอะไร หน้านายแดงๆนะ มีไข้รึเปล่าเนี่ย ”  ปากว่ามือถึง มือหนาค่อยๆยื่นไปแตะที่หน้าผากคนตัวเล็กเบาๆ อีกมือก็แตะหน้าผากของตัวเองเหมือนวัดไข้ มันยิ่งทำให้อีกคนหน้าแดงมากขึ้นไปอีก
                  “ ไข้ก็ไม่มีนี่ ไหงหน้านายถึงได้แดงอย่างงี้อะ นี่แดงมากกว่าตอนแรกอีก เป็นอะไรรึเปล่ากีกวัง ”คนตัวใหญ่เอ่ยด้วยความเป็นห่วง อีกคนได้แต่ส่ายหน้าหยอยๆ เชิงปฏิเสธ
                  “ ไม่ใช่หรอก สงสัยแดดมันแรงละมั้ง อิอิ  ”   กีกวังพูดยิ้มๆก่อนจะเดินนำไปทิ้งให้ดงอุนยืนงงอยู่ซักพักก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ากีกวังเดินนำไปไกลแล้ว
                  “ กีกวังรอด้วย เดี๋ยวเป็นลมนะ แดดมันแรง -0 - ”  ดงอุนรีบวิ่งตามไป คนตัวเล็กยิ่งได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งขำ
              ซื่อบื้อจริงๆเลยดงอุน ฉันเขินนายอยู่ตางหากหละ แดดมันแรงจริงๆเลยอะนะ อิอิ ^^


.........................................................................................................


      “ ทนไม่ได้เหรอไง ” พอพ้นห้องพักครูไปได้นิดหน่อย จุนฮยองที่เดินตามมาเงียบๆ ก็เอ่ยขึ้นถึงมันจะดูกวนประสาทหน่อยๆ แต่ก็ทำให้ร่างบางถึงกับ ชะงัก
                  “ ตามมาทำไม ” ร่างบางพูดทั้งๆที่ไม่หันหลังกลับมา พยายามกลั้นน้ำตาของตัวเอง เขานะร้องไห้ให้จุนฮยองเห็นไม่ได้
                  “ เปล่า ห้องเรียนมันไปทางนี้ ก็เท่านั้น ว่าไง ทนไม่ได้เหรอไง ถึงได้ขอออกมาก่อน ”  จุนฮยองยังคงถามย้ำต่อไปอย่างกวนประสาท ซึงมันยิ่งคอกย้ำช่วยเรียกน้ำตาและความโกรธของร่างบางได้เป็นอย่างดี
            ร่างบางทำเป็นไม่สนใจพยายามเดินไปเรื่อยๆให้ถึงห้องเรียนให้เร็วที่สุด  ถ้าเขายังอยู่ต่อ น้ำตาของเขาที่พยายามกลั้นไว้มันคงต้องไหลออกมาแน่ๆ   จุนฮยองพอเห็นฮยอนซึงเมินใส่  ก็รีบเดินตามมาอย่างหงุดหงิดก่อนที่จะ คว้าแขนของร่างบางไว้ แล้วกระตุกดึงให้ร่างบางกระเด็นชิดกับกำแพง พันธนาการร่างบางด้วยวงแขนของตัวเอง
                  “ โอ๊ย ฉันเจ็บนะ นายจะทำอะไร ” แผ่นหลังที่ถูกชนเข้ากับกำแพง รู้สึกเจ็บแปลบนิดๆ แต่มันไม่เท่ากับแรงที่จุนฮยองใช้บีบต้นแขนของเขาในตอนนี้   
                  “ นายเดินหนีฉันทำไม ทนไม่ได้กับความจริงรึไง ตอบฉันมาซิ ” ร่างหนาเค้นแรงบีบที่ต้นแขนของร่างเล็กอีกเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังปะทุ ร่างในวงแขน ได้แต่ก้มหน้า พยายามซ่อนน้ำตาที่เริ่มจะกลั้นไม่อยู่ มันค่อยๆไหลพรั่งพรูกันออกมาเรื่อยๆ  ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำให้จุนฮยองหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ มองร่างบางด้วยความไม่เข้าใจ เขาแค่อยากได้ยินคำตอบ
              ตอบฉันมาซิฮยอนซึง ทำไมนายถึงเอาแต่ร้องไห้ ยิ่งนายร้องไห้ ฉันก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นไปอีก                                                                  
                  “ ตอบฉันมาซิ ว่ามันคือความจริง ความจริงว่านายทิ้งฉัน นายทิ้งฉันมา พูดซิ น้ำตาของนายมันไม่ทำให้ฉันใจอ่อนหรอกนะ พูดมาเซ่! ” จุนฮยองตะคอกใส่ฮยอนซึงอย่างหัวเสีย มันยิ่งทำให้ฮยอนซึงร้องไห้หนักกว่าเดิม ตอนนี้ร่างบางไม่สามารถกลั้นน้ำตาของตัวเองได้อีกแล้ว
                   “ อึก ฮึก....นายจะให้ฉันตอบอะไร นะ....ฮึก ” ร่างบางพยายามรวบรวมสติก่อนจะค่อยๆเอ่ยทั้งน้ำตาแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมเงยหน้ามาพูดกับจุนฮยองอยู่ดี      
                  “ ความจริงว่านายทิ้งฉันมา ตลอด 3 ปี  ” จุนฮยองค่อยๆลดแรงที่บีบต้นแขนลง น้ำเสียงของเขาสั่นหน่อยๆ แค่เพียงแปบเดียว ก่อนที่มันจะกลับมาเย็นชาเหมือนเดิม
                  “ ก็ได้ ฮึก! ฉันทิ้งนายมาตลอด 3 ปี พอใจนายรึยังหละ ” ร่างบางค่อยๆเงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาขึ้นมา สายตามองเข้าไปในดวงตาของคงตรงหน้า ก่อนจะระบายความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างหมดความอดทน
      “ นายอยากได้ยินอย่างนี้ใช่ไหม ฮึก! อยากได้ยินนักใช่ไหม อยากได้ยินว่าฉันทิ้งนายมาใช่ไหม ฉันพูดให้นายแล้วไง พอใจนายรึยัง นายอยากให้ฉันทิ้งนายมากใช่ไหม ฮึก  ” จุนฮยองมองคนในอ้อมแขนอย่างอึ้งๆ เขาไม่คิดว่าฮยอนซึงจะพูดอย่างนี้ออกมา ดวงตาเริ่มจะสับสนหน่อยๆ มองหน้าร่างบางด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่ร่างบางจะพูดต่อทั้งน้ำตา “ พอใจนายแล้วใช่ไหม นายรู้ไหมฉันรู้สึกยังไง ฉันเจ็บปวดมากแค่ไหนนายรู้ไหม ตั้งแต่ฉันเจอกับนาย ฉันดีใจที่ได้เจอนาย แล้วฉันก็ร้องไห้เพราะนาย ร้องไห้เสียใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน ทุกครั้งที่เจอกับนาย คุยกับนาย ฉันทรมานพอใจนายรึยังหละว่ะ พอใจนายรึยัง ฮึกๆ!... ”  ร่างบางโวยวายฟูมฟาย ดวงตาแดงก่ำ อยากจะตีคนตรงหน้าให้มันหายเจ็บใจ  ให้รับรู้ว่าเขาเจ็บแค่ไหน
                   “ นะ...นาย นี่นาย ” ฮยอนซึงไม่ชอบพูดคำหยาบจุนฮยองรู้ดี ตอนนี้เหมือนในหัวของจุนฮยองเริ่มจะว่างเปล่า เขาไม่เคยรู้ว่าเลยว่าฮยอนซึงดีใจที่ได้เจอเขา และเสียใจเพราะเขามากขนาดนี้ ถึงจะรู้ดดีว่าตัวเองตอกย้ำร่างบางมากแค่ไหน
                  “ ฉันไม่ได้ตั้งใจทิ้งนายมาซักหน่อย ฉันไม่ได้อยากทิ้งนายมา....ฮึกๆ ”  ร่างบางค่อยๆทรุดตัวลงช้าๆไม่สนใจแขนที่ถูกพันธนาการเอาไว้ จุนฮยองที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งๆ  มือที่จับแขนอยู่ก็ค่อยๆปล่อยลงมา และมอง มองร่างบางร้องไห้ ร้องไห้เพราะเขาอีกแล้ว ถึงอยากจะเข้าไปโอบกอดร่างที่สั่นระริกนั่นใจจะขาด แต่ไมรู้ทำไม หมัดที่ค่อยๆกำด้วยความเจ็บใจตัวเอง เจ็บใจที่ไม่กล้าพอจะเข้าไป เส้นเลือดที่ปูดออกมาเขา ดวงตาที่ค่อยๆแดง ไม่รู้ว่าจะหยุดน้ำตาของร่างบางได้ยังไง ได้แค่ยืนเฉยๆ ฟังเสียงน้ำตาของอีกคน
               นายหยุดร้องไห้เถอะนะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว หยุดเถอะ ถ้ามันทรมานขนาดนั้นนายจะคิดถึงฉันทำไม ทำไม   ฮยอนซึง หยุดร้องไห้เถอะ ฉันขอร้องแหละ หยุดร้องไห้เถอะจางฮยอนซึง.....

............................................................................
WT :: เย่ๆๆๆๆ มาอัพแล้วขอรับ เป็นไงกันบ้างไม่ได้แต่งมานานพอสมควร
         ฝีมือตกไปบ้างไหมเอ่ย ยังไงก็ช่วยๆเม้นๆๆๆกันให้ไรเตอร์เป็นกำลังใจให้เออเร่อด้วย
     ก็จะดีมากๆเลยนะค้า~ ขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้รอนานมาก
     หายกันไปหมดแล้วรึยังเนี่ยแงแง มาอัพให้แล้วน้า~
     อย่าเพิ่งทิ้งกันนะค้า~  ขอบคุณทุกคนมากๆค้า~~~ -3- 

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

CHAPTER 4 แก้นิดหน่อยค่ะ

CHAPTER   4



                                     โยซอบกำลังนั่งรอสายคนที่คิดว่าจะลากไปซื้อของอย่างใจจดใจจ่อ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะรับซะที เขาทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจ และเขามั่นใจว่าจะพาไปได้แน่นอนXD
        (ฮัลโหลครับ)
        “ฮัลโหล นั่นดูจุนอารึป่าวฮะคงไม่ต้องบอกแล้วว่าใคร เขาได้ขอเบอร์กันไว้เมื่อตอนไปเลี้ยงข้าวเรียบร้อย
        (ครับ โยซอบเหรอ) เช่นเดียวกัน คนปลายสายก็ดีใจไม่แพ้กัน
        “ฮะ เค้าเอง><” โยซอบพูดไปก็บิดตัวไป จนตอนนี้ตัวเองจะเป็นน็อตอยู่แล้ว
         (มีอะไรเหรอโยซอบ)
        “ดูจุนอา ตอนนี้ว่างไหมอ่า~” โยซอบเริ่มใช่วิชามาร ออดอ้อน สุดๆไปแลย มันใช่สังหารคนท้งห้องมาแล้ว(เว้นแต่ฮยอนซึง)
        (ว่างครับผม ทำไมเหรอ) คนปลายสายรีบตอนอย่างไม่ต้องคิด วันนี้มันวันหยุดนี่^^
       “งั้น~ไปซือของเป็นเพื่อนเค้าหน่อย น้า~” พอได้ยินอีกฝ่ายท่าจะตกลงก็ยิ่งออดอ้อน ด้วยน้ำเสียงอันอันตราย ยังไงซะ เขาก็ต้องพาดูจุนให้ได้
        (ได้ซิ ที่ไหน เมื่อไหร่บอกมาเลย ครับ^o^) ดูจุนดูจะไม่มีอะไรที่จะต้องปฏิเสธอยู่แล้ว แล้วไหนจะเสียงนั่นอีก ใครละจะไม่ยอมไปด้วย
       “จริงนะ ดูจุนอานายใจดีจังเลย ห้ามเปลี่ยนใจนะอิอิ งั้น~ที่ห้าง M ตอน10โมงนะ^^” ตอนนี้โยซอบยิ้มจนแก้มจะปริ กระโดดโลดเต้น ก็จะได้ไปเที่ยวกับคนที่ตัวเองชอบ  ทั้งดีใจ และภูมิใจกับเสียงพิฆาตของเจ้าตัวสุดๆ
       (ครับผม แล้วเจอกันนะครับ)
       “ฮะ แล้วเจอกัน^^” พูดจบปลายสายก็วางไป  โยซอบตื่นเต้นมาก เขาารอคอยเวลานี้มาตั้งสองปี  สองปีที่แอบชอบยุนดูจุน เขาคงมีความสุขมาแน่ๆ
              วันนี้จะเป็นยังไงบ้างน้า ได้ไปเที่ยวกับดูจุนอาสองคนด้วยด้วย ><   

                  ทางด้าน อีกคนก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แบบที่ให้หล่อที่สุด แทบจะทันทีหลังจากวางสาย เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร แค่ได้ฟังเสียงก็ดีใจขนาดนี้ แต่ว่าแค่นี้เขาก็มีความสุขละหละ
             ดีจังเลยนะ ไปซื้อของเหรอ คงต้องพกเงินไปเยอะเลยซิเรา เฮ้อ~ ….. โยซอบ นายทำตัวแบบนี้กับทุกคนรึเปล่า นายทำเสียงแบบนี้เวลาอ้อนทุกคนรึเปล่า....


                   ………………………………………………………………………………………………
                 
 โยซอบมาถึงก่อนประมาณ 10 นาที แล้วซักพักดูจุนก็ค่อยตามมา ซึ่งแน่นอนว่า เขาาไม่มีทางลืมเงินในปริมาณที่พอเหมาะสำหรับโยซอบมาด้วย ซึ่งตอนที่หยิบมา เขาก็แอบตกใจนิดหน่อยอยู่เหมือนกัน
         “ดูจุนอาเราไปซื้อของ%#$@!!++|?”<:”}*-//#$%#@..... โยซอบร่ายรายการที่ต้องซื้อวันนี้ ทำเอาคนฟังขนลุกอยู่ไม่น้อยเลย มันดูทั้งเยอะ และน่าจะวุ่นวายน่าดู
         “เอ่อ.... เยอะดีเนอะ นายจะซื้อหมดนั่น รู้แหล่งเหรอ o_O? ”  คนขี้สงลัยก็แกล้งยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆโดยที่ตัวเล็กไม่ทันรู้ตัว ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม
         “ อ่ารู้ซิ อ่ะ!”  โยซอบที่เงยหน้าขึ้นมาจากรายการของ ก็ตกใจเพราะเจอเข้ากับใบหน้าอันหล่อเหลา   ขี้เล่น ของดูจุน จังๆระยะห่างเพียงคืบ “ ดูจุนอา เอาหน้าออกไปกะ...ก็ดะ...ได้...นะ>///< ” ตอนนี้โยซอบเขินจนหน้าแดงไปถึงใบหู มือไม้ไม่อยู่กับที่ จับนู่นนี่ไปทั่ว แน่นอนว่า คนก่อเหตุ ยิ่งเห็นอย่างนี้ก็ยิ่งได้ใจ
         “ อ่ะโทษที งั้น...เราไปซื้อของกันเถอะ นะ^^ ” อมยิ้งนิดๆก่อนจะค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปกระซิบ เบาๆที่ข้างใบหูสีแดงของคนตัวเล็ก ก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นมา แล้วทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้น อย่างเนียนๆ
               แกล้งนายอย่างนี้ก็สนุกดีเหมือนกันนะโยซอบ ฮ่าฮ่าฮ่า^o^           
         “ อะ...อืม ไม่ต้องกระซิบก็ได้ดูจุนอา คนถูกแกล้งรีบเดินนำไปไม่สนใจทิศทาง ตอนนี้สมองของเขารวนไปหมด เสียงกระซิบเบาๆที่ข้างหูของเขา มันยังวนไปวนมาให้ตัวเองเขินเล่นอยู่เลย 
                 ดูจุนอาบ้า เล่นมากระซิบแบบนี้เค้าจะไปทำอะไรถูกเล่า >///< ว่าแต่... ทำไมนายถึงแกล้งทำแบบนี้กันเค้าอะอ่า~  แต่ก็ดีนะ อิอิ ^^

                  หลังจากนั้นโยซอบก็ลากดูจุนไปร่วมชะตากรรมช็อปปิ้งแหลกของตนเอง โดยที่แน่นอนว่า โยซอบไม่ได้พาดูจุนมาเพียงเพื่อมาเป็นเพื่อนซื้อของอยู่แล้ว หลังจากซื้อของเสร็จ ดูจุนก็ต้องหลงกลออกเงินเลี้ยงข้าวให้อีกตางหาก และการซื้อของในวันนี้ก็ได้บอกให้รู้ว่า มากับโยซอบ ต้องใช้ทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์มากจริงๆ ...สงสัยคราวหน้าเขาคงต้องพกเงินมาให้มากกว่านี้อีก OoO~



        


        ..............................................................................................................




กรี๊ง~~กรี๊ง~~(เสียงออดนะเสียงออด - - )
                  ฮยอนซึง ที่วันนี้ไม่รู้ว่าตื่นสายได้ยังไง กำลังวิ่งหน้าตาตื่นไปที่ห้องเรียนอย่างสุดชีวิต เพราะถ้าเข้าช้ากว่าอาจารย์โจควอน เรื่องมันต้องไม่จบแค่สุนทรพจน์สั้นๆ(ที่ไม่เคยสั้น)แหงๆ และมันคงเป็นการเริ่มต้นการเรียนที่ทรมานตับน่าดูเลยหละ
         “ โถ่เอ้ยฮยอนซึง ทำไงดีๆ ไม่รอดแน่ๆ ทำไมถึงตื่นสายได้เนี่ยToT~ ” ฮยอนซึงที่วิ่งไปบ่นไป ไม่ได้ดูทางอะไร สิ่งเดียวตอนนี้คือ ไปให้ถึงห้อง!
          “ ปึก!...   โอ้ย!   คนเซ่อซ่าชนเข้ากับแผ่นหลังของใครบางคน เขาได้แต่เอามือลูบหัว จนไม่ได้ดูว่าคนนั้นเป็นใคร
          “ ซุ่มซ่าม จะรีบไปไหนของนาย ฮะ!” ยงจุนฮยอง! คนชนหละอยากจะฆ่าตัวตาย หลังจากเรื่องที่ซุปเปอร์ มันอาจจะช่วยให้เขาสบายใจขึ้นนิดหน่อย แต่ยังไงความจริงมันก็ไม่หายไปอยู่ดี ความจริงที่ว่า       จุนฮยองยังคงโกรธเขาอยู่
         “ ถามทำไมไม่ตอบ
         “ เรื่องของชั้น หลบ คนสวยก็เผลอตัวขึ้นเสียงใส่ด้วยความที่ทั้งรีบทั้งโมโห
         “ เหรอ ขึ้นเสียงอย่างนี้ ไม่เหมือนตอนแรกเลยนี่ จุนฮยองเอ่ยนิ่งๆ จนฮยอนซึงเองก็เดาอารมณ์ไม่ออก
          “นาย ...ชั้นจะรีบไปเรียน นายก็รีบไปด้วย  ฮยอนซึงลดน้ำเสียงลง จริงอย่างที่จุนฮยองพูดเขายังไม่กล้า แม้แต่จะมองหน้าจุนฮยองจนถึงตอนนี้ แม้จะเกิดเรื่องที่ซุปเปอร์ขึ้นมันก็แทบไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกผิดของเขาลดลงหรือหายไป เขารีบเดินไปที่ห้องเรียนโดยที่จุนฮยองก็หลบทางให้แต่โดยดี และก็เดินตามไปเรื่อยๆ

ที่ห้องเรียน~~
นักเรียนจางฮยอนซึงของครู จะไปไหนเหรอครับ หือo_O? ” ไม่รอดอย่างที่คิด อาจารย์โจควอนเรียก ฮยอนซึงแทบจะในทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในห้อง “นักเรียนจุนฮยองก็ด้วย นี่มันกี่นาทีแล้วหือo_O?”
         “สามนาที คะ...ครับฮยอนซึงก้มหน้าตอบอย่างเงียบๆ รับชะตากรรมของตัวเอง เขากลัวทั้งครูและจุน ฮยองพอพอกันเลยหละ
          “ดีมากนักเรียนจางฮยอนซึง เธอสองคนมาหาครูที่ห้องพักครูนะหลังรับประทานอาหารกลางวันนะ^^” ฮยอนซึงและจุนฮยองเดินไปยังที่นั่งอย่างเงียบๆ โยซอบได้แต่ส่งสายตาสงสารมาให้ เขาเข้าใจฮยอนซึงนะ ถึงจะไม่เคยโดนเพราะเข้าห้องอย่างเฉียดฉิวทุกมีอะหละ มันน่าจะเป็นฝันร้ายแน่ๆ
           “ ฮยอนซึงอา ไหงถึงมาสายได้อ่ะ มาสายกว่าเค้าอีกน้า
          “ ตื่นสายหนะยังโย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
          “ สงสัยวันนี้ฝนตกแน่เลย ฮยอนซึงตื่นสาย ฮ่าฮ่าฮ่า^0^” โยซอบหัวเราะชอบใจ ไม่ใช่จะได้เห็น ฮยอนซึงตื่นสายบ่อยๆ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับเขาเลยที่เดียว
          “เอาน่ายังโย ว่าแต่นายไปที่ห้องพักครูเป็นเพื่อนฉันหน่อยดิ น้ายังโยซอบ นะเดี๋ยวเลี้ยงข้าวกลางวัน*0* คนสวยพยายามใช้อาหารกลางวันเข้าล่อ  เขาไม่อยากไปหาอาจารย์โจควอน และยิ่งไม่อยากไปกับจุนฮยอง
          “จุนฮยองอาไปด้วยแล้วนี่ เค้าไม่ไป เชิญนายตามสบายเลยโยซอบรีบตอบปัด เขาเห็นใจฮยอนซึงนะ แต่เรื่องแบบน้ำมันทำใจกันยากจริงๆ โยซอบทำเนียนตั้งท่าเป็นตั้งใจเรียน แล้วก็หันไปเจาะแจะใส่ดูจุนแทน
             ฮยอนซึงอา เค้าขอโทษน้า แต่ว่าเค้าไม่อยากไปอ่า เข้าใจนะ แต่ขอเถอะ ยกโทษให้เค้าน้า~ 



...................................................................................................................



                  ดงอุนเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง เขาตัดสินใจจะบอกกับฮยอนซึงวันนี้ คราวก่อนพลาดไป คราวนี้เขาต้องบอกไปให้ได้
        “ดงอุน นายเป็นอะไรรึเปล่า เดินวนไปวนมาฮยอนซึง สังเกตเห็นดงอุนเดินวนไปวนมา ก็สงสัยทำไมไม่กินข้าว - -
        “ เปล่าเอ่อ... ฮยอนซึง คือว่ากลางวันนี้นายว่างรึเปล่า ตัดสินใจบอกคนสวยไปเลย ไหนๆก็ได้โอกาสแล้วทั้งที
        “ ขอโทษนะดงอุน นายก็รู้นี่ว่าเดี๋ยวฉันต้องไปหาอาจารย์โจควอน
        “อ่อ... นั่นซินะ อืม....ฉันลืมไป นายรีบไปเหอะเดี๋ยวสายนะดงอุนแอบรู้สึกผิดหวังกับคำตอบนิดหน่อย มันช่วยไม่ได้ แต่ก็น่าแปลกใจ ที่เขาแทบจะไม่รู้สึกเสียใจหรือเสียดายอะไร มากมายเหมือนตอนแรก
        “ อ่ะ!นั่นซิ แค่คิดก็สยองแล้ว ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน คนสวยที่นึกขึ้นได้แทบจะวิ่งไปในทันทีเลย
                นี่เราเป็นไรว่ะ ทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้ แล้วทำไมต้องไปนึกถึงนายนั่น ตอนที่คุยกับฮยอนซึงด้วย เฮ้อ~ไอ้ดงอุนเอ๊ย  นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ


                  ดงอุนเดินลงไปที่โรงอาหาร ทุกทีเค้าจะนั่งกินกับโยซอบและฮยอนซึง แต่วันนี้ฮยอนซึงมีธุระแถมโยซอบ ยังนั่งอี๋อ๋ออยู่กับดูจุนด้วย เห็นแล้วก็อยากไปขัดคอ สุดท้ายเลยมีแค่เค้าคนเดียว สงสัยเค้าคงต้องกินข้าวคนเดียวแหงๆ
         “ จึ๊กๆ.... นี่!ดงอุน นายใช่ม่ะ นิ้วของเจ้าของเสียงจิ้มๆลงบนแขนของดงอุน ทำเสียงจึ๊กๆ เหมือนจะสะกิดเรียกดงอุนข้างหลังด้วยท่าทางที่น่ารักสุดๆ
         “ อ้าวกีกวัง นาย ดงอุนที่รู้สึกตัวก็หันหลังมา พร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆปรากฎขึ้นทันที
         “ ฉันมากินข้าว เห็นนายยืนอยู่คนเดียว มากินด้วยกันมั้ย วันนี้ฉันโดนทิ้งเหมือนกับนายอะ XD ”กีกวังพูดแทรกขึ้นมาระหว่างที่ดงอุนกำลังจะถามอย่างรู้ทัน
         “นายรู้ได้ไงว่าฉันโดนทิ้ง o_O? ”
          “เดาเอา ฉันเก่งใช่ไหมล้า~ ^^”กีกวังตอบกลับทั้งรอยยิ้ม ที่ทำเอาดงอุนถึงกับตาค้างไปวูบนึง
          “นั้นซิ ก็ถูกของนายแหละ งั้นก็ได้ชั้นไปซื้อก่อนนะแล้วเดี๋ยวไปนั่งด้วยดงอุนพยายามเรียกสติตัวเองกลับคืนมา ก่อนที่มันจะกระเจิงไปมากกว่านี้
          “ อื้มๆ (_ _)(^ ^)(_ _)(^^) กีกวังพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะเดินไปรอที่โต๊ะอย่างร่าเริง
               ดงอุน เราบังเอิญเจอกันอีกแล้วซินะ ชั้นดีใจนะ ที่เจอนายอีก นายรู้สึกเหมือนชั้นรึเปล่านะ
                  ในขณะที่ดงอุนเข้าแถวซื้ออาหารไปเขาก็หันไปมองที่โต๊ะที่กีกวังนั่งเป็นระยะๆอย่างไม่เข้าใจตัวเอง แล้วทุกครั้งที่มองไป ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยิ้มให้กับภาพที่เห็นตรงหน้าด้วย
               เจอนายอีกแล้ว สงสัยนายจะตายยากแน่ๆเลยกีกวัง พูดถึงไม่ทันไรโผล่มาก็แล้ว แล้วทำไมต้องเป็นนายตลอด แล้วทำไมฉันต้องยิ้มตลอดด้วยว่ะ โหย ไอ้ดงอุนเอ๊ย!!


…………………………………………

WT : อ่า มาแก้ให้ตามคำขอแล้วนะค้า คงจะไม่ต่างจากเดิมซักเท่าไหร่
        ที่จริงแทบจะเหมือนเดิมเลยแหละ อัพแชบ 5 แล้วนะค่ะ
         ไปอ่านกันต่อเลย เย่ๆๆ >3<!!